18 เมษายน 2552

Left Thesis Behind EP.1



เกือบร่วม 2 เดือนที่ใช้เวลาไปกับการพักผ่อนและ left thesis behind ไว้เบื้องหลัง
เรากำลังจะย้อนรอยกลับไป..

'โครงการออกแบบหนังสือแนวคิดเชิงทดลองเรื่องความถนัดซ้ายในมนุษย์'
Experimental Book Design for The Left-Handed

การทำทีสิสครั้งนี้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากอย่างหนึ่งที่ได้เลยคือเรื่องการวางแผน
ความคิด และการตัดสินใจ ทุกๆเรื่องที่กำลังทำนั้น ต้องอาศัยการตัดสินใจเสมอ
และการตัดสินใจนี้ทำให้ทีสิสของเราเปลี่ยนจนไม่เหลือคราบเก่าอีกเลย

อย่างหนึ่งคือ เราเป็นคนฟุ้งซ่านและสามารถคิดได้ร้อยแปดพันเก้าอย่างต่อวัน
และมีข้อเสียที่ว่าชอบจมปลักอยู่กับความคิดแล้วไม่ลงมือทำให้สำเร็จสักอย่าง
ทำให้งานทุกครั้งที่ทำออกมาจะไม่เหมือนความคิดแรกที่สเก็ตแบบไว้




*ความเปลี่ยนแปลง
เรื่องการวางคอนเสบและไอเดียนั้นยังคงเป็นแบบเดิม แต่ style จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
(ลองย้อนไปดู entry เก่าๆจะมีสเก็ตไว้)
คือในตอนแรกคาดหวังไว้ว่าจะให้เป็นภาพประกอบ vector กับเล่น texture ของกระดาษ
การจัดวางตัวอักษร แต่พอมาทดลองก็รู้ว่าตัวเองค่อนข้างเบื่อกับภาพแบบเวกเตอร์
และยังไม่เคยทดลองใช้ภาพจริงมาประกอบในงาน ประกอบกับเป้าหมายที่วางไว้ตอนแรก
คือการรับรู้และสื่อถึงประสบการณ์คนถนัดซ้ายให้เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
จึงคิดว่าภาพประกอบที่เป็นภาพถ่ายจริงนั้นน่าจะให้อารมณ์และความรู้สึกได้ดีกว่า
อาจจะไม่แปลกใหม่ในแง่ของการใช้ แต่ทำให้มันจูงใจมากกว่าภาพเวกเตอร์ทั้งเล่มได้

อีกทั้งเนื้อเรื่องบางส่วนค่อนข้างหนักและต้องทำการวิเคราะห์อย่างมาก
โดยต้องหาแหล่งข้อมูลที่อ้างอิงเชื่อถือได้ เพราะบางทฤษฎีก็มาหักล้างความเชื่อในภายหลัง
ทำให้การทำงานค่อนข้างคิดหลายชั้นมาก จนบางครั้งรู้สึกว่าทำเรื่องยากให้เข้าใจยากอีก
คงจะไม่ไหว น่าจะทำให้มันเข้าถึงได้ง่ายแม้จะเป็นหนังสือทดลองก็ตาม

ในความคิดครั้งแรกสุดก่อนหน้านี้ หนังสือทดลองในความหมายเราคือตัวผู้สร้างสรรค์ผลงาน
กระทำและสร้างสรรค์เพื่อเป้าหมายส่วนตน ไม่ได้หมายความให้คนทั่วไปเข้าใจกระจ่างชัด
อาจจะเข้าใจได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมดนัก พอมาทำกลับเองจึงรู้สึกได้ว่ามันไม่สุด
ความจริงอยากจะทำให้มันทดลองมากกว่านี้ แต่พอมองย้อนไปที่จุดประสงค์
กรอบที่ตีไว้คือเพื่อความเข้าใจร่วมกัน ทำให้คิดใหม่ว่าเราควรที่จะทำการทดลอง
ที่ต้องมาพร้อมกับการสื่อสาร น่าจะทำให้มัน simple ที่ได้ด้วยทั้งเนื้อหา
และในขณะเดียวกันก็ไม่น่าเบื่อเช่นกัน
ผลสรุปคือ เราใช้การจัดวางตัวอักษรจัดชิดซ้ายในเล่มขวา และการจัดชิดขวาในเล่มซ้าย
โดยมีนัยยะที่สื่อถึง ในซ้ายมีขวา ในขวามีซ้าย ไม่ว่าจะแบ่งอย่างไรเราก็ต้องอยู่ร่วมกัน
นอกจากนี้ก็ใช้ Typography มาช่วยในการจัดองค์ประกอบของภาพ layout และอื่นๆ
เพื่อสื่อถึงคอนเสบการวางในแต่ละหน้าด้วย

*การพิมพ์และ mock up
ในเรื่องของการทำหนังสือกระบวนการพิมพ์คือสิ่งที่ทำให้ชิ้นงานสมบูรณ์มากที่สุด
จะเห็นชิ้นงานเป็นตัวเป็นตนได้ต่อเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการนี้
และการพิม์ทำให้หนักใจอย่างมาก เพราะอยากได้กระดาษที่ได้ดังใจต้องหาเอง
เราไปเหมากระดาษปอนด์ A2 มากว่า 30 แผ่นเพื่อใช้ในงานนี้โดยเฉพาะ
และยังต้องไปหากระดาษพิเศษเพื่อพิมพ์พิเศษบางหน้าที่เล่นไอเดียสะท้อนกลับ
ถ้าอยากจะเล่นกับกระดาษและ texture เพื่อเพิ่มประสบการณ์ก็ต้องมีทุนมากกว่านี้
และถ้าไม่ได้ส่งโรงพิมพ์ที่ปริ้นและทำปกให้สำเร็จรูป ต้อง mock เอง
เวลาปริ้นควรปริ้นทีเดียว คือต้องเสร็จสมบูรณ์แล้วพิมพ์ ไม่งั้นพิมพ์แต่ละครั้ง
พิมพ์คนละที่คนละที ก็ทำให้สีเพี้ยนและไม่เหมือนกัน ยิ่งพิมพ์เยอะขนาดร้อยหน้าขึ้น
จะมีปัญหาแน่นอน ก่อนหน้าก็ต้องปริ้นเทสกับกระดาษที่คิดว่าจะใช้
และหาโรงพิมพ์ที่คุยง่ายเข้าใจกระบวนการทำงาน หนังสือเล่มนี้ mock มือทั้งเล่ม
ไม่ว่าจะปก ส่วนใน เพราะไม่มีที่ไหนรับเย็บแบบนี้จึงต้องทำงานคราฟล้วนๆ
และจากประสบการณ์การทำ book ที่ผิดพลาดมามากมาย ทำให้เล่มนี้ไม่มีพิมพ์เสีย
แปะไม่ผิด ทุกอย่างพอดีเป๊ะ ในขณะ mock ก็ต้องครองสติตลอดเวลา เพราะถ้าพลาด
จะไม่เสียแค่เวลาเท่านั้น แต่จะเสียทรัพย์เพิ่มขึ้นด้วย เล่มนี้ mock เกือบอาทิตย์
ต้องวางแผนขั้นตอนการทำงานดีๆ การทำงานมือนั้น ระวัง!! อะไรก็เกิดขึ้นได้



*ไม่สุด
คือครั้งแรกที่เสนอไปจะต้องมีแบบทดสอบว่าถนัดซ้ายหรือขวา
และเล่มที่เป็นการรวบรวมแหล่งของคนถนัดซ้าย เช่นพวก ร้านขายของ
community ต่างๆ และคู่มือระวังภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน
เพราะคนถนัดซ้ายต้องเจอกับอันตรายเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้
ที่ออกแบบมาเพื่อคนถนัดขวาอยู่ทุกๆวัน จะเป็นทิปการเหลีกเลี่ยงเล็กๆ
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเพราะทำไม่ทัน ทั้งที่ส่วนนี้คือส่วนที่อยากทำมากที่สุด
แต่กลับไปทุ่มตรงเนื้อหาที่หนาเกือบ 150 หน้าแทน ไอเดียนี้ยังดองไว้
ไว้มีอารมณ์และโอกาสเมื่อไรจะทำแน่นอน (เพราะขี้เกียจเป็นทุน)

EP.2 เดี๋ยวมารีวิวคอนเสบกับหนังสือมือซ้ายที่สำเร็จแล้วให้ดู
จะมาสร้างหนังย้อนแบบ Star War กัน